บาตรแตก
สาแหลกขาด
สิทธิการิยะ
โบราณาจารย์สาธยายอถรเวทอันหนึ่งแห่งดินแดนอุษาคเนย์ว่าร้ายแรงนัก
เป็นลำดับชั้นต้นของคุณไสยเวทที่ทรงอาคมแกร่งกล้า
ใช้หมายมั่นพิฆาตฆ่าอริศัตรูเรียกขาลไสยเวทนั่นว่า บาตรแตก สาแหลกขาด
บาตรแตก อนึ่งหมายว่า บาตรที่พระภิกษุสงฆ์ถืออกบิณฑบาตให้ยามอรุ่ณรุ่งเป็นกิจของสงฆ์เพื่อสงเคราะห์สัตว์โลก หากแต่ว่าบาตรนั้นทำมาจากเนื้อโลหะอันประกอบไปด้วยเหล็กกล้า ดีบุก โลหะอันมีน้ำหนักหลายประมาณ บาตรเหล่านั้นเกิดอุบัติการณ์ที่มิได้คาดคิด พระสงฆ์องค์เจ้าทำหลุดมือหล่นตกแตก เกิดวางคว่ำไว้มีอุบาทว์หมาแมวสัตว์ร้ายเขี่ยกระทบตกแตก บาตรอันพระภิกษุสงฆ์ครองไว้เกิดตื่นตระหนกตกใจทำแตก เกิดอุบาทว์พสุธาสะเทือนสะท้านแผ่นดินไหวบาตรตกลงมาแตก บาตรอันวางไว้เกิดชำรุดทรุดโทรมตามกาลเพลาที่ผ่านพ้นไป ล้วนแล้วแต่เป็นบาตรแตกโดยทั้งสิ้น
สาแหรก อนึ่งหมายว่า
เส้นสายปลายเชือกอันประกอบด้วยเชือกปานปอ เชือกกล้วย เชือกหวาน เชือกอันใดก็ดี
ที่ผูกขึ้นขื่อ ผูกเข้ากับตะกร้าคานหาบ ผูกกระเช้า ผูกกระดงขึ้นแขวนเครื่องใช้ไม้สอยในครัวเรือน
ไว้วางกุ้งแห้งปลาแห้งเนื้อตาก ไว้วางเกลือพิเสนสิ่งสารพันอันวางแขวน
เชือกนั้นคือสาแหรก
เปรียบดังครอบครัวที่คอยอุ้มชู้เอื้อเฟือเกื้อหนุนสามัคคีซึ่งกันและกันไว้มิให้หย่าร้างลาแตกแยกจากกัน
หากสายสาแหรกบ้านใดเกิดขาด ถือว่าเป็นอุบาทว์ร้างลา จะพลาดพรากแตกแยกจากกัน บาตรแตก สาแหรกขาด
หมายรวมแล้วความแตกแยกออกจากกัน
สัพพะ อุปัทวา วินาศสันติ สิทธิการิยะ
กลายใกล้โบสถเสมาอ้างว้าง มืดค่ำโมงยาม ตามเก็บผ้าอ้อม เดินห้อมล้อมเข้าสู่
หมู่โพธิ์ใหญ่ไทรหนา หาเศษบาตรแตก ระแวกโบสถ คดเคี้ยวกุฏิ โกฐอัฐิกำแพง
เดินตะแคงหาบาตร อันประหลาดแตกหัก ได้ประจักษ์สักใบ รีบเอาไปทำของ
ย่างคะนองสามแพร่ง สะพ่ายแลงหินชนวน ดินกวนสอพอง แลลองวายันต์ พรรณนาคาถา
ปัจจุขาดสามคา เรียกผีห่าผีโหง โยงยันต์ลิขิต นิมิตนามศัตรู คู่อริอาฆาต
แม่นมาดเขียนนาม ตามตกฟากวันเกิด ล้ำเลิศคาถา "เต มรณัง ภะเว" ๑๐๘ ครา
ด้วยวาจาโกรธแค้น ตรึงยันต์ผูกสอง คะนองมนต์ดำ นาราย์ผายศร มนต์ร้อนพรายวาด
พรหมมาตร์พิฆาตพจ ด้วยสุระเสียงเคืองแค้นแม้นว่ามาด้วยประการฉะนี้แลฯ
ยันต์บาตรแตก
อุปเทห์ว่า ให้ไปวัด ตามใต้ต้นโพธิ์ต้นไทร วัดร้าง จะมีบาตรแตก
โดยแตกแบบไม่ได้ตั้งใจเช่นพระท่านทำหลุดมือหล่นตกแตก
หรือบาตรที่ถูกทิ้งร้างชำรุดผุพัง หากหามาได้แล้วห้ามนำเข้าบ้านตนเองเด็ดขาด
ให้กระทำที่ทางสามแพร่งหรือป่าช้า ให้ลงยันต์ทั้งสองผูกนี้ไว้บนโลหะบาตรแตก
จารจารึกด้วยตะปูตอกฝาโลงก็ดี ใช้หินชนวนวาดรูปยันต์ก็ดี จากนั้นเขียนชื่อ
พร้อมบริกรรมคาถาว่า "เต มรณังภะเว" 108 จบ แล้วออกโองการ
"โอมเพชชณะรายขับสายศรพระราม อันชื่อพรหมมาตร์ พลายวาดอาคเณวาด
โอมสะท้านกรึงบาดาล สารพัดกรึงทั่วโลกากรึง จิตตัง มรณัง ภะเว มะสูญ อุสูญ
อะฉิหายตายมรณัง"
ในยามค่ำคืนอันมืดสนิท ยามหมานอนหลับ วันดัวเดือนดับ วันโกน
วันโลกาวินาศจะดีมาก
นำบาตรแตกที่ลงอาคมไสยเวทนั้นไปฝั่งไว้ใต้ถุนบ้านเรือนของศัตรู
แล้วแอบย่องไปในบ้านตัดสายสาแหรกในห้องครัวให้ขาด
กระทำให้เหมือนว่าสายนั้นเก่าจึงขาด ยุคสมัยนี้ไม่มีสายสาแหรก ให้ตัดราวแขวนของใช้
ราวตากผ้าหรืออะไรที่เป็นเครื่องแขวนของใช้ให้ขาดสักหนึ่งอย่าง เรียกว่า
"บาตรแตก สาแหรกขาด" ปัจจัยอันเกิดไสยเใทมนต์ดำก็ถือครบถ้วนบริบูรณ์
คำนึงคิดเสมอว่าอย่าให้คนในบ้านศัตรูรู้ว่าฝั่งบาตรแตกลงไว้ตรงไหนและมิให้คนในบ้านเห็นพิรุตสายสาแหรกขาดโดยเจตนาตัดให้ขาด
สนเทห์ ผู้ใดก็ตามที่โดบาตรแตก
ผู้นั้นจะจิตใจร้อนลุ่ม วิตกกังวล หลอนใจในวิญญาณ ล้างผลาญจิตใจตนเอง
คนในบ้านอยู่มิสุข มีทุกข์เข้าบ้าน คนบ้านแตกแยกทาง หมดความสามัคคี
บาดหมางระหองระแหง จนถึงหลอนฆ่ากันตายภายในบ้าน จะฉิบหายวายวอด ล้มหายตายจาก
ตายตกไปตามๆกัน ตายห่าตายโหง ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ติดโรคห่าระบาดร้ายแรง
ตายยกครัวโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยลำดับความรุนแรงจะเริ่มขึ้นจาก ผิดใจกัน
เคลืองแคลงแหนงใจ ทะเลาะเบาะแว้ง บาดหมางแตกแยก ไร้ความสามัคคี หย่าร้างหนีหาย
พลาดพลากจากกัน ตายตกไปตามกัน ติดโรคห่าตายติดกัน ประสบอุบัติเหตุตายโหง
หลอนจนฆ่ากันตาย เป็นต้น
วิธีแก้ ๕ วิธีที่
วิธีที่ ๑ ตั้งพิธีจรดพระนางคัญแรกนาขวัญ
นำพืชผลและเมล็ดพันธ์จากพิธีพืชมงคล ปลูกหว่านรอบบ้าน
นำดินจากพิธีแรกนาขวัญโปรยให้ทั่วใต้ถุนบ้านรอบเขตบ้าน โดยให้บริกรรม
คาถาหว่านทราย "อิมัสมิง ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะตะสะหัสสานิ
พุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ อิมัสมิง ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา
สะตะโยชะนะตะสะหัสสานิ ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ อิมัสมิง ราชะ
เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะตะสะหัสสานิ สังฆะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ
สุรักขันตุ" แล้วต่อด้วยคาถาถอนโบสถเสมา "สมุหะเนยยะ สมุหะคะติ
สมุหะคะตา พัทธะเสมายัง เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาถอน ยะหลุด
ลอยเลื่อน เคลื่อนด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ พุทธัง ปัจจกขามิ ธัมมัง
ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ เอกาเสติ ปะสิทธิ เม เอหิ คัจฉะมุมหิ เปหิ เปหิ
นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ"
วิธีที่ ๒. นำตะปูสังฆวานร ตอกประตูบ้าน
หน้าต่าง เสาบ้าน ถ้าหาไม่ได้ให้
นำตะปูธรรมดาไปฝากไว้ในโบสถที่มีพระลงอุโบสถลงปาฏิโมกข์ 1 พรรษา
เอามาตอกบ้าน หรือขุดบาตรแตกขึ้นมาตอกด้วยตะปูสังฆวานรก็ได้ (อาจจะทำให้ของหวนคืนเจ้าของได้)
แล้วบริกรรมคาถาถอนโบสถเสมา
วิธีที่ ๓. ขุดบาตรแตกขึ้นมา
รดด้วยน้ำมนต์ปริตมอญ น้ำมนต์ธรณีสาร
ถ้าหาไม่ได้เอาจีวรขาดมาห่อบาตรแตกบริกรรมคาถาถอนโบสถเสมา โยนทิ้งแม่น้ำลำคลอง
อันนี้ของอาจจะเป็นลมเพลมพัดไปหาคนอื่นต่อ หรือเอาไปโยนใส่บ้านที่เราคิดว่าเขาทำจะมำให้ของกลับเข้าตัวเจ้าของได้
วิธีที่ ๔. ใช้วิธีฝั่งอาถรรพ์กันภัย
เช่นไปหาเลือดประจำเดือนของหญิงสาวแรกรุ่นพรหมจรรย์ ลาดรดใต้ถุนบ้าน
แยกออกจากบ้านนั้นชั่วคราว ก่อนกลับเข้าบ้านให้ล้างด้วยน้ำคลองเจ็ดท่าน้ำเจ็ดบ่อ
วิิธีที่ 5 ลื้อบ้าน ยกบ้าน ขุดดินขึ้นมา
2ศอก ตั้งเครื่องสังเวยบัตรพลี ขับไล่เสนียดจัญไร
จบเรื่องบาตรแตกสาแหรกขาดไว้เพียงเท่านี้แล