ไสยศาสตร์

ไสยศาสตร์

       ไสยศาสตร์ หรือ ศาสตร์มืด คือการทำ คุณไสยในพจนานุกรมไทยให้คำจำกัดความ คุณไสย ว่า เป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายอมิตรเป็นศาสตร์ที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่อาจจะพิสูจน์ได้ แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป และมีคนเชื่อและผู้ปฏิบัติทั่วโลก
       ความหมายของไสยศาสตร์มีคนให้ความหมายไว้หลายๆท่าน เช่น ศาสตร์แขนงหนึ่งของศาสนาพราหมณ์ หรือ ไสยะ มาจาก ไสยาสน์ แปลว่า นอน การนอนหลับ ดังนั้นจึงแปลว่า ศาสตร์แนวนอน ศาสตร์แห่งระนาบที่ไม่มีวันเจริญก้าวหน้า แต่ยังไม่มีใครกล่าวว่าเป็น ศาสตร์แห่งการนอน
       ในแต่ละชุมชนจะมีรูปแบบของไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สรุปแล้วไสยศาสตร์ก็คือการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น โดยผิดแปลกจากกฏของธรรมชาติ เช่น ทำให้สามีภรรยาที่ดีกันทะเลาะและแยกทางกัน ทำให้สาวหลงรักหนุ่มที่เคยเกลียด ซึ่งปกติแล้วจะใช้ไสยศาสตร์มาใช้ในทางที่ชั่วร้าย โดยเฉพาะการทำ คุณไสยที่เป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายผู้ไม่เป็นมิตรด้วยการปลุกเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปในตัว หรือฝังรูปฝังรอย หรือการทำเสน่ห์ยาแฝด ลงนะ จากผู้ที่อ้างตัวว่ามีอาคม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกที่ทำมาหากินด้วยการหลอกลวงผู้คน หรือที่เรียกว่า พวกสิบแปดมงกุฎ ถึงกระนั้นก็ตามคุณไสยหรือ มนต์ดำยังมีผู้หลงงมงายมากมาย
       ไสยศาสตร์ถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และมีทั่วโลกแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบัน แม้รูปแบบจะแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การทำอันตรายต่อผู้คนด้วยวิธีที่ลี้ลับ
        ลัทธิไสยศาสตร์ คือการรวมอำนาจจิต รวมพลังงานทางจิตซึ่งได้ทำการอบรมจิตใจให้มีความยึดมั่น เชื่อถือ อย่างจริงจัง ดำเนินไปตามหลักทางไสยศาสตร์ ตามวิธีการนั้น ๆ ก็จะสามารถแสดงฤทธิ์ปาฎิหาริย์ได้ด้วยกระแสคลื่นแห่งพลังอำนาจจิตอันแรงกล้า ของ มโนภาพ สมาธิ จิตตานุภาพ ทั้งสามประการนี้ จึงเป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจที่ประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นได้
             ลัทธิไสยศาสตร์ ได้เกิดขึ้นมาก่อนพุทธกาล ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ไตรเพท ในลัทธิของพราหมณ์ ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
ฤคเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์และสรรเสริญพระเจ้า
ยชุรเวทย์ เป็นคำร้อยแก้วให้สำหรับท่องบ่นเวลาบวงสรวงบูชาพระเจ้า
สามเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม
อถรเวทย์ เป็นคัมภีร์ประกอบด้วยเวทยมนต์คาถาเรียกผีสาง เทวดาให้ช่วยป้องกันอันตรายให้ และให้มีการแก้อาถรรพ์ ทำพิธีสาปแช่งให้เป็นอันตรายได้ด้วย
คัมภีร์พระเวท            พราหมณ์ฮินดูกำลังประกอบพิธีบูชาไฟกองกูณฑ์

อาถรรพ์รเวทย์
           อาถรรพ์ไสยศาสตร์. อาถรรพ์รเวทย์ในคัมภีร์ไสยศาสตร์ แยกออกเป็น 2 นิกาย คือ
        - นิกายขาว (
White System) เป็นวิชาที่ใช้ในทางดี คือช่วยเหลือมนุษย์ให้มีสุขปลอดภัย
        - นิกายดำ (
Black System) เป็นวิชาที่ใช้ในทางชั่ว คือทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น
คัมภีร์แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ทางเวทมนตร์คาถามี 8 ประเภทคือ
        - พระเวทย์แก้โรคต่าง ๆ
        - พระเวทย์ประสาน
        - พระเวทย์สะเดาะ เช่น สะเดาะกุญแจและโซ่ตรวน
        - พระเวทย์ป้องกันตัว เช่น คาถาแคล้วคลาด
        - พระเวทย์แสดงปาฎิหาริย์
        - พระเวทย์ทำอันตรายผู้อื่น
        - พระเวทย์แก้ภูติผีปีศาจ เช่น คาถาสะกดวิญญาณ
        - พระเวทย์ทำเสน่ห์ เช่น มนตร์เทพรำจวญ


                                                             เวทมนตร์ 
       เวทมนตร์ หมายถึง ถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์ คำสำหรับเสกที่พึงจะรู้ ควรจะรู้ มาจากศัพท์ เวท” (หมายถึง ความรู้, ความรู้ทางศาสนา; คาถาอาคม) และ มนต์”, “มนตร์” (หมายถึง คำศักดิ์สิทธิ์, คำสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริมงคล) ฉะนั้น อาจจะตีความได้ว่า การศึกษาเวท คือ การศึกษาสิ่งที่พึงจะรู้, และการศึกษามนตร์ คือ การศึกษาคำสวด คำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อตีความความหมายที่ซ่อนอยู่ ต้องเรียนรู้ทั้งสอง จึงจะเรียกตนเองได้ว่าผู้มีเวทมนตร์โดยไม่ละอายใจ
        การเรียนรู้เวทมนตร์แท้จริงเป็นเรื่องไม่ยากนัก เพราะเวทมนตร์เป็นสิ่งรอบๆตัวที่มีอยู่ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ การปฏิบัติตนเพื่อเข้าถึงธรรมชาติ ซึ่งอาจจะต้องหาผู้ชี้นำ ซึ่งมีทั้งมีสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต
       เวทมนตร์ เป็นศาสตร์แห่ง ความเชื่อ ที่ว่าด้วยอำนาจที่เหนือการพิสูจน์ เป็นพลังอันเกิดจากการบริกรรมคาถาด้วยความสงบทางจิต มีผลทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดไปจากปกติ เช่น ฟ้าผ่า ไฟลุก
       คำว่า เวทมนตร์ ในภาษาอังกฤษ ใช้ว่า “magic” ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “magique” โดยเป็นคำยืมจากภาษาละตินว่า “magice” และภาษากรีก μαγική (τέχνη)” ซึ่งหมายถึง ศิลปะ สำหรับในภาษาไทย มีศัพท์บัญญัติว่า มายิกคือทับศัพท์จากคำนี้ ไม่เพียงอย่างนั้น คำสวดแต่ละคำย่อมมีความหมายแผงอยู่ภายในตัว เช่น โอม นะ มัด ศิวะ ถ้าสวดต่อไปมากๆย่อมจะมีความหมายมากๆ
ประเภทของเวทมนตร์
       เวทมนตร์มีหลายประเภท อาจพบได้ในเกมหรือนิยาย ซึ่งบางส่วนสอดคล้องตรงกับตำราโบราณที่มีจริง แต่ก็มีบางส่วนที่แต่งเติมเสริมต่อออกไป อาจจัดแบ่งตาม ผลที่เกิดจากใช้เวทมนตร์เช่น เวทมนตร์รักษา เวทมนตร์คุ้มกัน เป็นต้น หรือแบ่งตามพลังงานรูปหนึ่งที่อยู่รอบข้างตัว มักจะกำหนดให้ประกอบไปด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่
       ธาตุพื้นฐาน 4-5 ธาตุ (ซึ่งตรงกับ ธาตุพื้นฐานที่ศาสตร์โบราณกล่าวถึงจริงๆ) คือ
              ตำรายุโรป ได้แก่ ดิน , น้ำ , ลม , ไฟ
              ตำราจีน ได้แก่ ดิน , น้ำ , ไม้ (หรือ ลม) , ไฟ , ทอง (หรือโลหะ)
              ธาตุเสริม เช่น อัญมณี , สายฟ้า , หมอก , เมฆ , น้ำแข็ง , แสง , โชค โดยบางครั้งเวทมนตร์อาจจะถูกนำมาอ้างอิงในศาสนา , ลัทธิ หรือความเชื่อ

         ตำนานเวทย์มนต์ มีกันอยู่หลายตำนาน เช่น ตำนานพ่อมดเมอร์ลินที่ช่วยเหลืออาเธอร์จนอาเธอร์ได้เป็นกษัตริย์ ตำนาน key of solomon กษัตริย์โซโลมอลผู้ทำสัญญากับปีศาจ กับคัมภีร์ไบเบิลปิศาล ที่นักบวชนอกรีตที่ขายวิญญาณให้แก่ซาตาน และใช้เวลาเขียนเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น   

เมอร์ลิน ในจินตนาการของศิลปินในคริสต์ศตวรรษที่ 13
และ
 Merlin โดย Julek Heller Illustration, 1990  

วงเวทย์ circle of magic ของกษัตริย์ โซโลมอน ในหนังสือ Key of solomon

                 คัมภีร์ไบเบิลปิศาล ของนักบวชนอกรีตที่ขายวิญญาณให้ปิศาล คาดว่าเขียนเสร็จในคืนเดียว และมีเวทย์มนต์และการปราบปิศาลอีกด้วย แต่ถูกฉีกออกไปบางส่วน

ลัทธิวูดู และ ลัทธิฮูดู
สัญลักษณ์ของลัทธิ วูดู
       ลัทธิวูดู สามารถสะกดได้หลายอย่าง เช่น Vodun, Vodou, Voudou, Vudu, Vodounเป็นลัทธิของแอฟริกาตะวันตก วูดูเกี่ยวกับ สัตว์ และวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว และพิธีกรรมหลายอย่างของวูดูเกี่ยวกับการทำพิธีกรรมเพื่อบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว มีพื้นฐานมาจาก คาทอลิก คำว่าวูดูมาจากภาษาฟอล อวี หมายถึงวิญญาณ ลัทธิวูดูเป็นลัทธิดั้งเดิมแห่งเกาะเฮติ ที่สอนให้เชื่อเรื่องเวทมนตร์ และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เหล่าหมอผีใช้มนตร์ดำปลุกวิญญาณคนตายขึ้นมาเป็นทาส รับใช้ที่เรียกว่า ซอมบี้ เชื่อกันว่าในช่วงทศวรรษที่ 1910 ซอมบี้มากมายถูกปลุกขึ้นมาเป็นแรงงานในไร่อ้อย สร้างความแตกตื่นแก่ผู้คนทั้งเกาะ หากวันนี้มนตร์ดำยังไม่คลายความขลัง อาจมีซอมบี้อยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนเกาะก็ได้ แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาถึงเรื่องเวทมนตร์ถึงทุกวันนี้
       ฮูดู คือความเชื่อทางไสยศาสตร์แขนงหนึ่ง ซึ่งผสมผสานระหว่างความเชื่อทางไสยศาสตร์พื้นบ้านของชาวแอฟริกันกับความเชื่อของชาวอเมริกัน โดยมีพื้นฐานมาจากความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและธรรมชาติของแอฟริกันโบราณ ความเชื่อแขนงนี้แพร่สู่ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านทางทาสชาวแอฟริกันตะวันตกในรูปแบบของเครื่องราง เวทมนตร์คาถาทั้งเพื่อการรักษา ป้องกันเคราะห์ อวยพร ตลอดจนสาปแช่ง เครื่องรางที่เป็นเอกลักษณ์ของความเชื่อแขนงนี้คือ โมโจ (Mojo) มีลักษณะเป็นถุงใส่สมุนไพร รากไม้ เศษกระดูกหรือชิ้นส่วนเล็กๆของสัตว์ เหรียญ หินต่างๆ ตลอดจนวัสุอื่นๆ ที่เชื่อว่ามีพลังพิเศษ
       Hoodoo /’hu:du:/ฮูดู/ n. (American English) (bad spell) อาถรรพณ์ (ทางร้าย) , คุณไสย (British English) (bringer of bad luck) ตัวกาลกินี, ตัวซวยOxford River Books English – Thai Dictionary อธิบายคำว่า Hoodoo ไว้ดังนี้
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างฮูดูและวูดู
       การเขียนและการออกเสียงที่คล้ายกันทำให้เกิดความสับสนระหว่างคำว่าฮูดูและวูดู (Voodoo) ว่าเป็นคำเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วฮูดูและวูดูมีที่มาและลักษณะที่แตกต่างกัน
       วูดู เป็นศาสนาโบราณในประเทศแอฟริกา ซึ่งเป็นที่นิยมและแพร่หลายไปทั่วทวีปแอฟริกาตะวันตก มีอิทธิพลต่อความคิด ขนบประเพณี และการดำเนินชีวิตของชาวแอฟริกันหลายเผ่า แม้ส่วนใหญ่ผู้คนจะรู้จักวูดูในด้านที่น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้ การสาปแช่งโดยนำเศษผมหรือเล็บของศัตรูไปใช้ประกอบพิธีหรือการปักเข็มบนตุ๊กตาวูดู แท้จริงแล้วเป็นเพียงส่วนย่อยของวูดูซึ่งมีรายละเอียดที่ลึกซึ้ง ศาสนาวูดูมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าว่าคอยดูแลธรรมชาติและความเป็นอยู่ของผู้คน กำหนดแนวทางให้อยู่กันอย่างสงบสุขระหว่างคนและธรรมชาติ แม้แต่การปักเข็มลงบนตุ๊กตาก็มีที่มาจากการสอนการรักษาโรค และผู้นับถือศาสนาวูดูก็เป็นเหมือนผู้คนทั่วไปที่นับถือศาสนาอื่นๆ มิได้นับถือปิศาจอย่างที่สื่อนำเสนอแต่อย่างใด
ภาพการประกอบพิธีขอลลัทธิวูดูที่ปรากฏในข่าว

       ในขณะที่ฮูดูนั้นเป็นเพียงแค่ความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ประยุกต์เอาความเชื่อต่างๆ ในแอฟริกา ซึ่งรวมถึงความเชื่อของศาสนาวูดูด้วย มาประยุกต์เข้ากับความเชื่อพื้นบ้านของชาวอเมริกัน ฮูดูใช้วัตถุตามธรรมชาติทั้งเพื่อสาปแช่งและรักษาผู้ป่วย และในเพลงบลูส์ของอเมริกาจำนวนมากล้วนมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับฮูดูแทรกปนอยู่ด้วย
       อย่างไรก็ตาม ทั้งวูดูและฮูดูล้วนเกี่ยวพันกับธรรมชาติ มีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ความคิด ความรู้สึกของผู้คน แม้จะอยู่ในระดับที่ต่างกัน ที่สำคัญคือมิได้เป็นความเชื่อที่มีแต่ข้อเสีย แต่มีทั้งการรักษาอาการเจ็บป่วย การเยียวยาบำบัดทั้งสภาพกายและใจของผู้คนให้ดีขึ้น ตลอดจนข้อดีอื่นๆ ต่อการดำเนินชีวิตรวมอยู่ด้วย
       ในอเมริกา ความเชื่อเกี่ยวกับฮูดูแพร่หลายไปในสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งในวงการเพลง เช่น เพลงบลูส์ Born on the Bayou ของ Creedence Clearwater Revival ก็มีเนื้อหาบางตอนที่เกี่ยวข้องกับฮูดู หรือวงร็อก Muse ที่ตั้งชื่อเพลงเพลงหนึ่งว่า Hoodoo โดยตรง หนังสือที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเชื่อแขนงนี้ไปจนถึงตำราฝึกปฏิบัติ เช่นเกม เช่นในเกม Gabriel Knight: Sins of the Father เกมแนว adventure ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อ พ.ศ. 2536 มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับฮูดูเช่นกัน แม้ว่าความเชื่อแขนงนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทย แต่ในปี พ.ศ. 2548 ภาพยนตร์เรื่อง Skeleton Key ที่นำเข้ามาฉายในชื่อไทยว่า เปิดประตูหลอนก็ทำให้มีผู้รู้จักฮูดูเพิ่มขึ้น เนื่องจากเนื้อหาของภาพยนตร์มุ่งเน้นไปที่การใช้เวทมนตร์คาถาของฮูดู



       ฮูดูเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ เพราะมีเรื่องราวที่แปลกประหลาด มหัศจรรย์ บางเรื่องอาจเหนือธรรมชาติ จึงช่วยกระตุ้นความใฝ่รู้ได้เป็นอย่างดี กระนั้นควรศึกษาในแง่ของความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเหมาะสมในฐานะที่ฮูดูเป็นความเชื่อที่มีอยู่จริง สามารถศึกษาได้ทั้งแนวกว้าง คือค้นคว้าหารายละเอียดเพิ่มเติม และแนวลึก คือการวิเคราะห์ วิจัยอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผล ทั้งด้านความสัมพันธ์ต่อความเป็นอยู่ของผู้คน หรือศึกษาในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น แต่ไม่ควรศึกษาด้วยความงมงาย หวังจะนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลตามต้องการ เพราะความเชื่อเรื่องฮูดูนั้นเหมือนกับความเชื่อด้านไสยศาสตร์แขนงอื่นๆ คือไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ทั้งหมด และการเชื่ออย่างไร้เหตุผลนั้นย่อมนำผลเสียมากกว่าผลดีมาสู่ผู้ศึกษา

3 ความคิดเห็น:

  1. ชอบครับ.. บล็อคสวยงามเข้ากับชื่อบล็อคฯดี ..พ่อผมก็เป็นคนมีอาคม เวทย์มนต์เยอะ แต่ท่านเสียไปนานแล้ว เห็นบล็อคนี้แล้วคิดถึงพ่อจัง

    ตอบลบ
  2. ได้ความรู้เยอะขึ้นเลยครับ

    ตอบลบ
  3. ทุกสายก็เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ทุกคน

    ตอบลบ